Page 5 - ผลงานการถอดบทเรียนการจัดการดินเพื่อปลูกพืชสมุนไพร : เผยแพร่ในวันครบรอบสถาปนา 61 ปี วันที่ 23 พฤษภาคม 2567 ภายใต้หัวข้อ “พัฒนาที่ดิน เกษตรกรทำกินอย่างยั่งยืน"
P. 5
23
(2.7) การใช้ใบหญ้าแฝก ฟางข้าว และปลูกพืชคลุมดิน เพื่อลดการสูญเสียธาตุอาหารในดิน
และเพิ่มอินทรียวัตถุในดินเมื่อใบหญ้าแฝกย่อยสลายสมบูรณ์
(2.8) มีการพักแปลงปลูก เพื่อสลับการปลูกพืชไปมาแต่ละแปลง
(2.9) มีการปลูกพืชต่างระดับเพื่อรักษาระบบนิเวศทั่วทั้งแปลงเกษตรกรรม
3) ปัญหาการชะล้างพังทลายของดิน เนื่องจากพื้นที่บางส่วนมีความลาดชัน เมื่อเวลาฝนตก
ลงมาท าให้เกิดการชะล้างพังทลายของดิน
แนวทางการแก้ปัญหา
(3.1) การปลูกแถบหญ้าแฝกป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน ในบริเวณพื้นที่เกษตรกรรม
แนวขอบร่องน้ า
(3.2) การใช้ใบหญ้าแฝก หรือปลูกพืชคลุมดินเพื่อลดการชะล้างพังทลายของหน้าดิน
(3.3) การไถพรวนดิน และปลูกพืชตามแนวระดับช่วยลดการสูญเสียหน้าดิน
4) ปัญหาดินกรด จากการเก็บตัวอย่างดินตรวจวิเคราะห์ในช่วงแรกๆ พบว่า ดินในแปลงเกษตรกร
ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัด (pH 5.3) รวมทั้งใช้ปุ๋ยเคมีหรือสารเคมีต่างๆ ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ท าให้ดินมีค่า
ความเป็นกรดเป็นด่างต่ ากว่า 5.5 ส่งผลให้ธาตุอาหารถูกตรึงไว้ในดิน พืชไม่สามารถน าไปใช้ประโยชน์ได้
แนวทางการแก้ปัญหา
(4.1) การเก็บตัวอย่างดินเพื่อตรวจสอบค่าวิเคราะห์ดิน โดยใช้โปรแกรมดินไทยและปุ๋ยราย
แปลงเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาดินกรด
(4.2) การใส่โดโลไมท์ ปริมาณ 340 กิโลกรัมต่อไร่ ตามค าแนะน าจากผลวิเคราะห์ดิน
กลุ่มวิเคราะห์ดิน ส านักงานพัฒนาที่ดินเขต 9
(4.3) การใส่ปุ๋ยหมักเพื่อช่วยดูดซับธาตุอาหารพืชในดิน
5) ปัญหาการขาดแคลนน้ า เนื่องจากดินมีการอุ้มน้ าต่ า ระดับน้ าใต้ดินลึกมาก ดินมีการกัด
กร่อนได้ง่าย ท าให้ช่วงฤดูแล้งเกิดปัญหาขาดแคลนน้ า
แนวทางการแก้ปัญหา
(5.1) มีการขุดสระเพื่อกักเก็บน้ าใช้ในการเกษตร โดยรอบสระก็มีการปลูกหญ้าแฝกเพื่อ
ป้องกันการพังทลายของขอบสระ และยังช่วยกรองตะกอนดินและเป็นการดูดซับสารปนเปื้อนไม่ให้ลงสู่แหล่งน้ า
(5.2) มีการใช้ระบบน้ าหยดในแปลงเกษตรกรรม
8.3 ขั้นตอนและวิธีการลดต้นทุนปลูกฟ้าทะลายโจร (ปลูกในป่ายาง)
1) ท าการไถดะ ไถแปรตากดิน ฆ่าเชื้อโดยใช้ปูนขาวโรยบางๆ
2) ยกร่องแปลงปลูกฟ้าทะลายโจร โรยปุ๋ยหมัก
3) วิธีการปลูก น าเมล็ดพันธุ์ฟ้าทะลายโจร (พันธุ์จาก อ.ก าแพงแสน จังหวัดนครปฐม)
ใส่กระป๋องแป้งเย็นผสมกับทรายในอัตรา 1:1 เพื่อไม่ให้เมล็ดถี่เกินไป และเป็นการลดต้นทุนในการซื้อเมล็ดพันธุ์
จากเดิม (ปี 2561) พื้นที่ 1 ไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม ลดลงเป็น พื้นที่ 1 ไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์ 100 กรัม