ชื่อ : นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ
ตำแหน่ง : หมอดินอาสาประจำจังหวัด
ที่อยู่ : ตำบลหนองราชวัตร อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี
| |  | รางวัลและประกาศเกียรติบัตร :
1. ประกาศนียบัตรอบรม โครงการ Cochran Fellowship Program ปี 2558 จัดโดยกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture: USDA)
2. รางวัลศิษย์เก่าเกียรติยศ ๕๐ ปี พระจอมเกล้าลาดกระบัง ด้านส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา ปี 2553 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
3. รางวัลหมอดินอาสาดีเด่น สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 1 ปี 2548 กรมพัฒนาที่ดิน
ลักษณะพื้นที่ ปัญหาของดิน และแนวทางในการแก้ปัญหาพื้นที่ดิน
นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ มีผลงานเด่นด้านทำการเกษตรแบบเกษตรปลอดภัย โดยนำหลักการ 5 รู้ มาประยุกต์ใช้ในการทำการเกษตร ดังนี้ 1) ต้องรู้เรื่องดิน 2) ต้องรู้เรื่องน้ำ 3) ต้องรู้เรื่องพืช และสัตว์ 4) ต้องรู้เรื่องธาตุอาหาร สารเคมี โรคแมลงศัตรูพืช 5) ต้องรู้จักการจัดการบริหารฟาร์ม มีพื้นที่เป็นของตนเอง 60 ไร่ พื้นที่เช่า 300 ไร่ รวม 360 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่นาข้าว 150 ไร่ ปลูกมันสำปะหลัง 30 ไร่ ปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ 110 ไร่ ปลูกป่า 45 ไร่ สระน้ำ 15 ไร่ และที่อยู่อาศัย 10 ไร่
พื้นที่ทำการเกษตร อยู่บนชุดดินเดิมบาง (Db) กลุ่มชุดดินที่ 7 ปัญหาที่พบ คือดินมีการระบายน้ำค่อนข้างเลว มีน้ำท่วมขังในฤดูฝน นาน 4 เดือน ความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง และการชะล้างพังทลายของดิน มีการปรับปรุงบำรุงดิน ในแปลงนา โดยการใส่ปุ๋ยหมักสูตรพระราชทาน หว่านพืชปุ๋ยสด (ปอเทือง) ไถกลบตอซัง ใช้สารเร่งซุปเปอร์ พด.2 ผลิตน้ำหมักชีวภาพจากเศษผัก ผลไม้ ในแปลง ใช้สารเร่งซุปเปอร์ พด.7 ผลิตสารควบคุมแมลงศัตรูพืช จากสมุนไพรในแปลง และมีการปลูกพืชหมุนเวียน เพื่อตัดวงจรการระบาดของแมลงศัตรูพืช รวมถึงใช้ฟางข้าว ใบแฝก สำหรับคลุมดินและเพิ่มอินทรีย์วัตถุให้แก่ดิน
ด้านการจัดการน้ำ มีการขุดสระน้ำ รวมไปถึงขุดบ่อบาดาล การทำนาเปียกสลับแห้งเพื่อให้มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี ด้านการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ มีการทำทางลำเลียง ปลูกหญ้าแฝกขอบสระน้ำ ขอบทางลำเลียง รอบทรงพุ่มไม้ผล และแนวขอบร่องน้ำ มีการไถพรวนดิน และปลูกพืชตามแนวระดับช่วยลดการสูญเสียหน้าดิน และมีการปรับรูปแปลงนาในรูปแบบของกรมพัฒนาที่ดิน ลักษณะที่ 1 และ ลักษณะที่ 2 และได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่นาจำนวน 45 ไร่ เพื่อใช้ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง
ปัจจุบันพื้นที่การเกษตรของนายสุกรรณ์ใช้เป็นศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการพัฒนาที่ดินและองค์ความรู้ด้านการเกษตร มีผู้เยี่ยมชมและอบรมปีละประมาณ 1,200 คน โดยมีแนวคิดพัฒนาพื้นที่การเกษตรให้เป็นจุดเรียนรู้และศึกษาดูงานด้านการจัดการพื้นที่เกษตร ด้านการพัฒนาที่ดินแบบเกษตรยั่งยืน และการผลิตพืชแบบปลอดสารพิษ (GAP) รวมถึงพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว พักผ่อนเชิงเกษตร ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ และเกียรติคุณจากหน่วยงานและองค์กรต่างๆ มากมาย มีความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตคือการได้เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายข้าวสารบรรจุถุงสำเร็จ จำนวน 10 ตัน ตอบสนองพระราชประสงค์ ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อทรงใช้ประโยชน์ตามพระราชอัธยาศัยเป็นประจำทุกปี และได้ตั้งปณิธานเอาไว้ว่าจะถวายข้าวสารทุก ๆ ปี ปีละ 7-10 ตัน มีรายได้จากผลผลิตข้าวพันธุ์หอมมะลิ 105 ข้าวพันธุ์ กข 41 ข้าวพันธุ์ กข 83 เป็นข้าวสาร จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ของตนเอง นอกจากนี้ยังได้ออกบูธจัดนิทรรศการกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษาต่างๆ ซึ่งมีการจัดจำหน่ายอีกช่องทางหนึ่งด้วย มีรายได้ต่อปี และรายได้หลักจากการจำหน่ายโคขุนไม่ต่ำกว่า 1.6 ล้านบาทต่อปี
| | |
|
|